วิธีเลือกเมล็ดกาแฟให้ตรงกับประเภทของการทำกาแฟ

Last updated: 8 มิ.ย. 2565  |  31267 จำนวนผู้เข้าชม  | 

วิธีเลือกเมล็ดกาแฟให้ตรงกับประเภทของการทำกาแฟ

ทุกวันนี้ร้านจำหน่ายเมล็ดกาแฟได้มีการพัฒนาไปมาก เราสามารถเลือกซื้อเมล็ดกาแฟที่มีระดับการคั่วแบบ คั่วอ่อน คั่วกลาง คั่วเข้ม และบางร้้าน สามารถเลือกไปได้ถึงระดับ คั่วอ่อน-กลาง , คั่วกลาง-อ่อน , คั่วกลาง-เข้ม ซึ่งมีความละเอียดในการเลือกซื้อเมล็ดกาแฟมากกขึ้น ซึ่งเมล็ดกาแฟที่เราซื้อมา ใน 1 ถุงนี้ ไม่ได้เหมาะกับการทำกาแฟทุกประเภท เราต้องเลือกซื้อเมล็ดกาแฟ ให้เหมาะสมกับการทำกาแฟประเภทต่างๆ

Taste note
- บนซองกาแฟจะเขียน taste note หรือเป็นการบอกว่า เมล็ดกาแฟถุงนี้เมื่อนำไปชงแล้วจะได้รับรสชาติไหนบ้าง รวมถึง บอกถึงรสชาติที่มีความคล้ายคลึงของ ผลไม้หรืออาหารที่เจอในชีวิตประจำวัน เช่น sweet , sour , orange , berry เป็นต้น
- อย่าแปลกใจถ้าเราไม่เจอรสชาติตามที่ซองได้เขียนไว้ เพราะอาจจะเกิดจาก
1. ใช้ทำกาแฟผิดประเภทหรือสกัดกาแฟผิดช่วงเวลาของกาแฟ เช่น กลิ่นดอกไม้ (floral) จะถูกสกัดช่วงเวลาท้ายๆ เช่น 2.30-3.00 นาที เพราะฉะนั้นถ้าสกัดกาแฟ จบด้วยเวลาที่สั้นหรือนานเกินไป อาจจะไม่ได้รับ taste note บางประเภทได้
2. taste note ทืี่เขียนบนซองกาแฟไม่เพียงแต่บอกรสชาติของกาแฟ แต่บอกถึงกลิ่น และ after taste ของกาแฟนั้นๆ เพราะฉะนั้นถ้าไม่พบรสชาตินั้น ให้ลองดมกลิ่น หรือลองชิมแล้วสัมผัส after taste เพิ่มดูจะมีโอกาสเจอ taste note ที่หายไปมากขึ้น

ระดับการคั่วของกาแฟ
1. คั่วอ่อน ระดับการคั่วอ่อนนั้นจะปฎิเสธไม่ได้เลยที่จะต้องเจอรสชาติเปรี้ยว แต่รสชาติเปรี้ยวก็มีหลายแบบเช่นกัน ส่วนมากจะออกเป็นแนวผลไม้ ถ้าเป็นรสชาติเปรี้ยวฝาด อาจจะเป็นการสกัดแบบ under extraction มากกว่า
- แนะนำให้นำไปทำกาแฟ ประเภทกาแฟดำที่ไม่ผสมนม เพราะจะทำให้รสชาติของผลไม้ , ความเปรี้ยว หรือกลิ่นดอกไม้ต่าง ออกมาได้ชัดเจนที่สุด เช่น french press , pour over , syphon 



2. คั่วกลาง เป็นระดับการคั่วที่มีความละเอียดสูง เพราะคั่วกลาง จะมีทั้งรสชาติติดเปรี้ยว หรือบางทีก็ไม่มีรสชาติเปรี้ยวแต่ไม่มีความขมเกินไป
- ถ้าเป็นคั่วกลาง-อ่อน ยังคงมีรสชาติติดเปรี้ยวบ้าง จะแนะนำให้ทำกาแฟประเภทกาแฟดำ สามารถทำกาแฟดำเย็นได้ เนื่องจากยังคงมีความสดชื่นของกาแฟเหลืออยู่ เช่น Americano ร้อน/เย็น , Pour-over ร้อน/เย็น
- คั่วกลาง รสชาติจะแทบไม่ลงเหลือความเปรี้ยว สามารถทำกาแฟได้ทุกประเภท เช่น Americano ร้อน/เย็น , Pour-over ร้อน/เย็น , Moka-pot , Latte ร้อน/เย็น , Cappucino ร้อน/เย็น แต่ความสามารถในการให้รสชาติของ ผลไม้ และ ดอกไม้ จะลดลง 
- คั่วกลาง-เข้ม รสชาติของการคั่วระดับนี้จะเริ่มมีความเข้ม แต่เมล็ดจะไม่ถึงขนาดเป็นสีดำ เหมาะสำหรับทำกาแฟที่ผสมนม เช่น Latte ร้อน/เย็น , Cappucino ร้อน/เย็น

 

3. คั่วเข้ม จะเกิดรสชาติความเข้มและความขมคู่กัน เหมาะสำหรับกาแฟเย็นที่ผสมนมเท่านั้น ยกเว้นการดริป(แบบญี่ปุ่น) สำหรับกาแฟเย็นที่ผสมนมจะให้รสชาติความเข้มและมีความขมเล็กน้อยไม่มากเนื่องจากนมและน้ำเชื่อม/นมข้นหวาน จะช่วยลดความขมของกาแฟ ทำให้รสชาติที่ได้สัมผัส เป็นในเรื่องของความเข้มของกาแฟเป็นส่วนใหญ่ ส่วนดริปร้อนแบบญี่ปุ่นนั้นจะเป็นการดริปกาแฟคั่วเข้มด้วยถุงผ้า แต่ key หลักจะอยู่ที่อุณหภูมิ และ เวลาในการสกัดกาแฟ สำหรับกาแฟคั่วเข้มนั้นจะให้อุณหภูมิน้ำในการสกัดอยุ่ที่ 80-88องศาเซลเซส และ ใช้เวลาในการสกัดกาแฟอยู่ที่ 4-6 นาที เนื่องจากเป็นเทคนิคสกัดกาแฟแบบแช่ และยืดเวลาในการสกัดกาแฟ เพราะกาแฟคั่วเข้มถ้าสกัดกาแฟมากเกินไปจะเกิดความขมมากเกินไป