ทำกาแฟ cold brew ด้วยอุปกรณ์ Hario

เนืองจากกระแสกาแฟ cold brew หรือ กาแฟสกัดเย็นนั้น  มีมากขึ้นเรื่อยๆ เรามาทบทวนความรู้เรื่อง cold brew กันก่อนนะครับ

 
Cold brew คือ กาชงกาแฟด้วยน้ำเย็น ทำให้เกิดการสกัดกาแฟออกมาอย่างช้าๆ จะทำให้ได้คาเฟอีนที่มากกว่าการทำกาแฟแบบสกัดร้อนทั้งหลาย และกรดที่ออกมาจะน้อยกว่าการทำกาแฟแบบสกัดร้อน

 
Cold brew ถูกแบ่งเป็น 2 ประเภท

1. Cold brew (immersion) การสกัดเย็นแบบเเช่ จะใช้วิธีนำผงกาแฟไปแช่ในน้ำ เพื่อให้เกิดการสกัดกาแฟอย่างต่อเนื่อง
2. Cold brew ( cold drip) กาสกัดเย็นแบบหยด จะใช้วิธีการ หยดน้ำลงบนผงกาแฟเพื่อให้เกิดการสกัดกาแฟทั้ง 2 วิธีการนี้มีความคล้ายคลึงกันอย่างมาก แต่จะต่างกันด้วยความช้าของการสกัด cold drip จะใช้เวลาสกัดที่นานกว่า เนื่องจากผงกาแฟโดนน้ำปริมาณที่น้อยกว่าในเวลาที่เท่ากัน

 
บทความเพิ่มเติม: Cold brew vs Cold drip , Cold brew กาแฟเย็นสุดหรู
 

สินค้า Hario ที่สามารถทำ กาแฟ cold brew ได้จะประกอบด้วยรหัส 9008 ,9009 ,9014 ,9015 ซึ่งวิธีการทำและขั้นตอนจะเหมือนกันต่างกันที่ สัดส่วนกาแฟที่ใช้ 
 

อุปกรณ์ที่ใช้

1. อุปกรณ์ทำ cold brew คลิก
   
2. เครื่องบดเมล็ดกาแฟ (ถ้าซื้อกาแฟแบบบดมาแล้วไม่ต้องใช้) คลิก
3. เครื่องชั่งดิจิตอล (ไม่จำเป็นต้องจับเวลาได้) คลิก 
4. เมล็ดกาแฟคั่วกลาง หรือ คั่วเข้ม
   
    

ปริมาณผงกาแฟและน้ำ ตามที่คู่มือ Hario แนะนำ 
 
 รหัส 9008,9009 ใส่ ผงกาแฟ 55 กรัม , น้ำ 700 กรัม

รหัส 9015 ใส่ ผงกาแฟ 50 กรัม ,น้ำ 650 กรัม

รหัส 9014 ใส่ ผงกาแฟ 80 กรัม ,น้ำ 1,150 กรัม

** ถ้าชอบความเข้มให้บดกาแฟให้ละเอียดขึ้น หรือ เพิ่มปริมาณผงกาแฟลงไป 5-10 กรัม

** ถ้าอยากให้กาแฟรสชาติอ่อนลงให้บดกาแฟให้หยาบขึ้นหรือ ลดปริมาณผงกาแฟลง 5-10 กรัม

***ระดับความละเอียดของผงกาแฟแบบหยาบระดับ french press ถึง drip

 

วิธีการทำ

1. บดเมล็ดกาแฟให้ได้น้ำหนักตามสัดส่วนที่ต้องการ
2. นำผงกาแฟใส่ตัวกรองกาแฟ cold brew
3. ใส่ตัวกรองกาแฟลงบนขวดแก้ว cold brew
4. เทน้ำให้ทั่วๆ ทำแบบดริปได้ตามปริมาณที่กำหนดไว้จนหมด
5. ใช้ช้อนหรือไม้คน คนผงกาแฟกับน้ำให้เข้ากัน แล้วปิดฝา
6. แช่ตู้เย็น 8-12 ชม.
7. เมื่อครบเวลาที่กำหนด ให้เอาตัวกรองออกแล้วสามารถเอาขวดแช่ตู้เย็นต่อไปได้ พร้อมดื่ม

*** ถ้าเเช่นานเกิน 12 ชม. กาแฟจะถูกสกัดเรื่อยๆ จะทำให้เกิดรสชาติฝาด และขมขึ้น

 

คลิปเพิ่มเติม